About Us

Origami Restaurant

Our Story

Origami ในภาษาญี่ปุ่นหมายถึง การพับกระดาษ จุดเด่นอยู่ที่ผู้พับสามารถพับ กระดาษออกมาเป็นอะไรก็ได้ไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว โดยใช้ความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ

ด้วยแรงบันดาลใจนี้เอง ทำให้เกิดเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่ชื่อว่า Origami   ร้านอาหารญี่ปุ่นที่หลบซ่อนอยู่ใจกลางสุขุมวิท 24  แห่งนี้ เปรียบเสมือนกระดาษหนึ่งแผ่น ที่ต้องการให้ลูกค้าได้ประสบการณ์การทานอาหารในรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร เราจึงพับร้านนี้ออกมาอย่างพิถีพิถัน ด้วยความตั้งใจของเชฟ ที่อยากนำเสนออาหารญี่ปุ่น ในรูปแบบและรสชาติที่แตกต่าง ด้วยการผสมผสานวัฒนธรรม ของอาหารหลากหลายสัญชาติเข้าด้วยกัน จนเกิดเป็นเมนูใหม่ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน 

ความตั้งใจของเรา ไม่ได้จบที่พับให้ Origami เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นฟิวชั่น เราจึงตั้งใจพับต่อ ให้พ้ืนที่ของร้าน Origami สามารถใช้ประโยชน์เป็นอะไรก็ได้ ตามที่ใจลูกค้าต้องการ ผ่านงานจัดเลี้ยงทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Event, Meeting หรือ Party

ร้านอาหาร Origami พื้นที่แห่งความเป็นไปได้ไม่รู้จบสำหรับทุกๆคน เป็นครัวของบ้านที่เสิร์ฟอาหารอร่อย ที่กินแล้วสุขใจ   เป็นห้องนั่งเล่นที่เมื่อไหร่เหนื่อย หรือเจออะไรมา เมื่อได้ก้าวเข้ามาก็จะได้รับการเติมเต็ม ทั้งพลังใจและกายกลับไป   เป็นห้องสังสรรค์   ที่พร้อมจะรองรับทุกโอกาสสำคัญ   ไม่ว่าจะเป็นงานเลี้ยงวันเกิด งานเลี้ยงองค์กร  หรืองานอีเว้นท์

มาชาร์จพลังของคุณที่ Origami เพื่อออกไปทำสิ่งที่ เป็นไปได้กันนะคะ

ORIGAMI 

Origami Restaurant

Our Philosophy

“Endless Possibility”

ที่ “ออริกามิ”  เราเชื่อว่า เมื่อใส่จินตนการและการลงมือ ทุกอย่างจะ “เป็นไปได้” จากกระดาษธรรมดา 1 แผ่น สามารถแปลงร่างเป็นสิ่งประดิษฐ์มากมายในโลกนี้   เราจึงมั่นใจว่า อาหารญีปุ่น ในแบบฉบับของออริกามิ จะเล่นสนุก และเป็นอะไรสนุกๆ ได้เพิ่มเติมจากอาหารญี่ปุ่นที่เคยเห็น  เมื่ออาศัยจินตนาการ และการลงมือปรับปรุงสูตรอร่อยๆ ของเชฟช่างคิดของเรา พื้นที่ของ ร้านออริกามิ   ก็สามารถเป็นได้มากกว่า  พื้นที่นั่งทานอาหาร  แต่เป็นพื้นที่ที่สร้างรอยยิ้ม พ้ืนที่จัดกิจกรรมแห่งความทรงจำ ได้มากมายตามแต่จิตนาการ และแขกที่แวะเวียนมาที่ออริกามิทุกท่าน เราก็อยากให้ทุกคน เชื่อว่าเราแต่ละคน  มีพลังในการสร้าง และทำทุกอย่างให้เป็นได้มากกว่าที่เรามองเห็น ขอแค่คิด ใส่จินตนาการ และเริ่มต้นลงมือทำ   ทุกอย่างก็สำเร็จได้

“Savor the Taste of Endless Possibility”

Close
Close